คำปรารภ
ผมเป็น "อดีตคนขี้โรค" เพราะชีวิต ๕๘ ปีที่ผ่านมาผมต้องทนทุกข์มรมานกับการเจ็บป่วย โดยเป็นภูมิแพ้แต่เด็กๆ ต่อมา อายุ ๑๒-๑๓ ปี เริ่มเป็นหอบหืดและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงอายุ ๕๐ ปี ต้องใช้ยาแรงที่สุดตอนอายุ ๕๘ ปี ยาที่แรงที่สุดก็ระงับอาการไม่อยู่แล้ว
อายุ ๕๐ ปี ผมเข้ารักษาโรคหัวใจที่สถาบันโรคหัวใจโรงพยาบาลราชวิถี ด้วยสาเหตุ "ลิ้นหัวใจรั่ว" และเส้นเลือด ๒ เส้นในหัวใจตีบ อายุ ๕๔ ปี ทำ "บอลลูน" ไปเส้นหนึ่ง ส่วนอีกเส้นรอทำในปีต่อไป เพราะลิ้นหัวใจรั่วเป็นเหตุให้ "ความดันโลหิตสูง" เคยขึ้นสูงถึง ๒๒๐ (ตัวบน) ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ "ต่อมลูกหมาก" ก็เสื่อมด้วย
ประสบการณ์ชีวิตที่ผมรู้สึกเลวร้ายที่สุดก็คือ ผมป่วยเป็น "อัมพฤกษ์" ๔๒ วัน ตั้งแต่วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน - ๓๐ ธันวาคม ๒๕๓๘ ที่จริง "อัมพฤกษ์" อาจจะไม่ถึงตายทันทีเหมือนโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงและหอบหืด แต่ภาพลักษณ์ที่ปรากฏของผู้ป่วย "อัมพฤกษ์" คืออาการน่าเวทนา หรือที่เรียกว่า "หมดสภาพ" ในขณะที่ภาพลักษณ์ของคนเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงและโรคหืดกลับดูปกติดี จนกว่าอาการจะกำเริบซึ่งอาจปุบปับไป "บ้านเก่า" ไม่ทันบอกลา
๕๘ ปีของชีวิต "อดีตคนขี้โรค" ทำให้ผมต้องคอยดูแลรักษาตัว คิดฝันไว้สูงสุดคือ ให้ผมมีโอกาสได้ "เกษียณอายุราชการ" หรือได้ "ทำบุญแซยิด" (อายุ ๕ รอบนักษัตร) ก็ถือว่า "เรือชีวิตของผมเข้าถึงฝั่งแล้ว หลังจากนั้นก็ถือเป็น "กำไรชีวิต" ถึงจะป่วยจะตายก็ช่างเถิด ลูกเมียมีหลักฐานบ้านอยู่ และมีงานทำใช้พอควรแก่อัตภาพ
ขณะนี้ผมอายุ ๖๑ ปี (พฤษภาคม ๒๕๔๕) ผมได้พบ "การฝึกพลังลมปราณ" เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๔๒ ทำให้ชีวิตของผมผกผันจาก "คนขี้โรค" กลายเป็นผู้ริเริ่มใช้การฝึก "พลังลมปราณ" เพื่อพิชิตโรค และเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงได้
๓ ปีที่ผ่านมา ผมจึงไม่เป็นหวัด ไม่เป็นภูมิแพ้ ไม่หอบหืด นอนไม่กรน เส้นเลือดในหัวใจที่เคยตีบอีก ๑ เส้นก็หายดีแล้ว ลิ้นหัวใจก็รั่วน้อยลง ความดันโลหิตสูงก็ลดลงเหลือประมาณ ๑๗๐ (ตัวบน) ผมอาศัยการฝึก "พลังลมปราณ" ด้วยวิธีการง่ายดาย ตามที่ผมพิมพ์หนังสือเผยแพร่ แจกไปกว่า ๒ แสนเล่มแล้ว โรคของชายสูงอายุคือ "ต่อมลูกหมากเสื่อม" ที่ผมเป็นอยู่ร่วม ๑๐ ปี บัดนี้ก็หายแล้วครับ ไม่ได้กินยา หรือผ่าตัดที่ไหนหรอก แต่ผมอ่านพบวิธีรักษาที่มีโรเนียวแทรกในหนังสือของ "พระภิกษุพระยานรรัตน์ราชมานิต" โดยท่านใช้ผักบุ้งจีนต้มใส่น้ำผึ้งแท้ กินไป ๒ กิโลกรัม ได้ผล คือหายเช่นเดียวกับที่ท่านเขียนไว้จริงๆ ครับ
ผมมีประสบการณ์ในการผจญโรคภัยทั้งด้วยชีวิตตนเอง และคนใกล้เคียง ได้เห็นด้วยตาตนเองว่า นอกจากการักษาโรคด้วยยาและเวชภัณฑ์แล้ว "พลังลมปราณ" และ "ธรรมชาติบำบัด" บางอย่างสามารถช่วยรักษาโรคได้อย่างน่าอัศจรรย์ ผมจึงรวบรวมบันทึกไว้ในเล่มนี้ เพื่อให้พิมพ์แจกเผยแพร่แก่สาธารณชน ผู้ใดเห็นไร้สาระก็ส่งคืนผู้แจก หรือส่งต่อเนื่องต่อผู้ที่สนใจ ผู้ใดจะนำวิธีของผมไปใช้พึงพิจารณาให้รอบคอบด้วยว่า วิธีการดังกล่าว ผมและผู้ที่ผมพบเห็นเคยใช้ได้ผลมาแล้ว เพราะปัจจัยหรือเงื่อนไขรายละเอียดไม่เหมือนกัน ดังนั้น ถ้าท่านมีทางเลือกที่ดีกว่า ก็ควรเลือกทางอื่นเถิดทางเลือกสายของผมนี้ เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่เคยรักษามาสารพัดวิธีแล้ไม่ได้ผลจนปัญญา จึงลองมาใช้วิธี "ธรรมชาติบำบัด" ซึ่งไม่ต้องเสียเงิน หรือเสียน้อยที่สุดเหมาะสำหรับประชาราษฎรที่นอกจากลำบากยากจนแล้ว ยังถูกโรคภัยเบียดเบียนด้วย
ผมเห็นใจและห่วงใยผู้ยากไร้ เพราะผมเองก็เคยยากจนมากมาก่อน ผมเข้าใจผู้เจ็บป่วยที่ทุกขทรมาน เพราะผมก็เคยเจ็บป่วยเป็น "คนขี้โรค" นานถึง ๕๘ ปี ในบัดนี้ผมสบาย ไม่ยากจน และไม่เจ็บป่วยอีกแล้ว ผมจึงอยากให้ "เพื่อนร่วมโรค" ผู้ทุกข์ยากและทุกข์ทรมานด้วยโรคที่ผมเคยเป็น ได้มีโอกาสหายเช่นเดียวกับผมบ้าง แล้วท่านจะรู้ซึ้งถึงพระพุทธวัจนะที่ว่า อโรคยา ปรมา ลาภา เป็นอย่างไร
ด้วยความปรารถนาดี
นายศุภกิจ นิมมานนรเทพ
เมื่อเล็กๆ ผมเป็นเด็กซนแต่ใช้ปัญญา จึงกระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวความรู้ต่างๆ นอกเหนือจากตำราในห้องเรียน ความซนมีทั้งก่อเหตุเภทภัยแก่ตนเอง และมีทั้งเกิดคุณประโยชน์มากหลายในภายหลัง ดังที่ผมจะขอเล่าให้ท่านฟังต่อไปนะครับ