Monday, August 7, 2017

คำนำ ... ประสบการณ์จากภูมิปัญญาชาวบ้านในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ

ประสบการณ์จากภูมิปัญญาชาวบ้านในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ  ภูมิปัญญา "แขก จีน ไทย"  รักษาโรคภัยหลายหลาก


คำปรารภ

ผมเป็น "อดีตคนขี้โรค"  เพราะชีวิต ๕๘ ปีที่ผ่านมาผมต้องทนทุกข์มรมานกับการเจ็บป่วย  โดยเป็นภูมิแพ้แต่เด็กๆ ต่อมา อายุ ๑๒-๑๓ ปี เริ่มเป็นหอบหืดและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงอายุ ๕๐ ปี  ต้องใช้ยาแรงที่สุดตอนอายุ ๕๘ ปี  ยาที่แรงที่สุดก็ระงับอาการไม่อยู่แล้ว

อายุ ๕๐ ปี ผมเข้ารักษาโรคหัวใจที่สถาบันโรคหัวใจโรงพยาบาลราชวิถี  ด้วยสาเหตุ "ลิ้นหัวใจรั่ว"  และเส้นเลือด ๒ เส้นในหัวใจตีบ อายุ ๕๔ ปี  ทำ "บอลลูน" ไปเส้นหนึ่ง  ส่วนอีกเส้นรอทำในปีต่อไป  เพราะลิ้นหัวใจรั่วเป็นเหตุให้ "ความดันโลหิตสูง" เคยขึ้นสูงถึง ๒๒๐ (ตัวบน) ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ "ต่อมลูกหมาก" ก็เสื่อมด้วย

ประสบการณ์ชีวิตที่ผมรู้สึกเลวร้ายที่สุดก็คือ  ผมป่วยเป็น "อัมพฤกษ์" ๔๒ วัน  ตั้งแต่วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน - ๓๐ ธันวาคม ๒๕๓๘  ที่จริง "อัมพฤกษ์" อาจจะไม่ถึงตายทันทีเหมือนโรคหัวใจ  ความดันโลหิตสูงและหอบหืด  แต่ภาพลักษณ์ที่ปรากฏของผู้ป่วย "อัมพฤกษ์" คืออาการน่าเวทนา  หรือที่เรียกว่า "หมดสภาพ" ในขณะที่ภาพลักษณ์ของคนเป็นโรคหัวใจ  ความดันโลหิตสูงและโรคหืดกลับดูปกติดี  จนกว่าอาการจะกำเริบซึ่งอาจปุบปับไป "บ้านเก่า" ไม่ทันบอกลา

๕๘ ปีของชีวิต "อดีตคนขี้โรค"  ทำให้ผมต้องคอยดูแลรักษาตัว  คิดฝันไว้สูงสุดคือ ให้ผมมีโอกาสได้ "เกษียณอายุราชการ" หรือได้  "ทำบุญแซยิด" (อายุ ๕ รอบนักษัตร) ก็ถือว่า "เรือชีวิตของผมเข้าถึงฝั่งแล้ว  หลังจากนั้นก็ถือเป็น  "กำไรชีวิต"  ถึงจะป่วยจะตายก็ช่างเถิด  ลูกเมียมีหลักฐานบ้านอยู่ และมีงานทำใช้พอควรแก่อัตภาพ

ขณะนี้ผมอายุ ๖๑ ปี (พฤษภาคม ๒๕๔๕)  ผมได้พบ "การฝึกพลังลมปราณ"  เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๔๒  ทำให้ชีวิตของผมผกผันจาก "คนขี้โรค"  กลายเป็นผู้ริเริ่มใช้การฝึก "พลังลมปราณ" เพื่อพิชิตโรค และเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงได้

๓ ปีที่ผ่านมา  ผมจึงไม่เป็นหวัด  ไม่เป็นภูมิแพ้  ไม่หอบหืด  นอนไม่กรน  เส้นเลือดในหัวใจที่เคยตีบอีก ๑ เส้นก็หายดีแล้ว  ลิ้นหัวใจก็รั่วน้อยลง  ความดันโลหิตสูงก็ลดลงเหลือประมาณ ๑๗๐  (ตัวบน) ผมอาศัยการฝึก "พลังลมปราณ"  ด้วยวิธีการง่ายดาย  ตามที่ผมพิมพ์หนังสือเผยแพร่  แจกไปกว่า ๒ แสนเล่มแล้ว  โรคของชายสูงอายุคือ  "ต่อมลูกหมากเสื่อม"  ที่ผมเป็นอยู่ร่วม ๑๐ ปี  บัดนี้ก็หายแล้วครับ  ไม่ได้กินยา หรือผ่าตัดที่ไหนหรอก  แต่ผมอ่านพบวิธีรักษาที่มีโรเนียวแทรกในหนังสือของ "พระภิกษุพระยานรรัตน์ราชมานิต"  โดยท่านใช้ผักบุ้งจีนต้มใส่น้ำผึ้งแท้  กินไป ๒ กิโลกรัม  ได้ผล คือหายเช่นเดียวกับที่ท่านเขียนไว้จริงๆ ครับ

ผมมีประสบการณ์ในการผจญโรคภัยทั้งด้วยชีวิตตนเอง และคนใกล้เคียง   ได้เห็นด้วยตาตนเองว่า  นอกจากการักษาโรคด้วยยาและเวชภัณฑ์แล้ว  "พลังลมปราณ"  และ  "ธรรมชาติบำบัด"  บางอย่างสามารถช่วยรักษาโรคได้อย่างน่าอัศจรรย์  ผมจึงรวบรวมบันทึกไว้ในเล่มนี้  เพื่อให้พิมพ์แจกเผยแพร่แก่สาธารณชน  ผู้ใดเห็นไร้สาระก็ส่งคืนผู้แจก หรือส่งต่อเนื่องต่อผู้ที่สนใจ   ผู้ใดจะนำวิธีของผมไปใช้พึงพิจารณาให้รอบคอบด้วยว่า  วิธีการดังกล่าว  ผมและผู้ที่ผมพบเห็นเคยใช้ได้ผลมาแล้ว  เพราะปัจจัยหรือเงื่อนไขรายละเอียดไม่เหมือนกัน  ดังนั้น  ถ้าท่านมีทางเลือกที่ดีกว่า  ก็ควรเลือกทางอื่นเถิดทางเลือกสายของผมนี้  เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่เคยรักษามาสารพัดวิธีแล้ไม่ได้ผลจนปัญญา  จึงลองมาใช้วิธี  "ธรรมชาติบำบัด"  ซึ่งไม่ต้องเสียเงิน  หรือเสียน้อยที่สุดเหมาะสำหรับประชาราษฎรที่นอกจากลำบากยากจนแล้ว  ยังถูกโรคภัยเบียดเบียนด้วย

ผมเห็นใจและห่วงใยผู้ยากไร้  เพราะผมเองก็เคยยากจนมากมาก่อน  ผมเข้าใจผู้เจ็บป่วยที่ทุกขทรมาน  เพราะผมก็เคยเจ็บป่วยเป็น "คนขี้โรค" นานถึง ๕๘ ปี  ในบัดนี้ผมสบาย  ไม่ยากจน และไม่เจ็บป่วยอีกแล้ว  ผมจึงอยากให้ "เพื่อนร่วมโรค" ผู้ทุกข์ยากและทุกข์ทรมานด้วยโรคที่ผมเคยเป็น  ได้มีโอกาสหายเช่นเดียวกับผมบ้าง  แล้วท่านจะรู้ซึ้งถึงพระพุทธวัจนะที่ว่า    อโรคยา  ปรมา  ลาภา  เป็นอย่างไร

ด้วยความปรารถนาดี  
นายศุภกิจ นิมมานนรเทพ


เมื่อเล็กๆ  ผมเป็นเด็กซนแต่ใช้ปัญญา  จึงกระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวความรู้ต่างๆ  นอกเหนือจากตำราในห้องเรียน  ความซนมีทั้งก่อเหตุเภทภัยแก่ตนเอง และมีทั้งเกิดคุณประโยชน์มากหลายในภายหลัง  ดังที่ผมจะขอเล่าให้ท่านฟังต่อไปนะครับ