ท่านอาจารย์วลัย คือ พี่สาวใหญ่(คนโต) ของน้องอีกสามคนแห่งตระกูล "ปิ่นเฉลียว" ชื่อเป็นทางการที่รู้จักกันดีในสังคม คือ "คุณหญิงวลัย ลีลานุช" เจ้าของ "บ้านเสานัก" มรดกวัฒนธรรมที่ย่านท่ามะโอ ตำบลเวียงเหนือ เมืองลำปาง
ผลงานการเขียนส่วนหนึ่งของ ปกรณ์ ปิ่นเฉลียว |
ปกรณ์ ปิ่นเฉลียว |
ผมได้รับเลือกเป็นกรรมการของชุมนุมในปีต่อมา พบคุณจินตนาในวงกาพย์กลอนอยู่เนืองๆ เธอแต่งโครงสี่สุภาพสดๆ เก่งมากยกนิ้วให้ น่าเสียดายและน่าเศร้าสลดยิ่งที่ "จินตนา(ปิ่นเฉลียว) ภักดีผดุงแดน" ถึงแก่กรรมเพราะมะเร็งเมื่ออายุ ๔๐ เศษ ในพิธีศพ ผมและภรรยามาจากชลบุรี ตั้งแต่ร่วมทำบุญเลี้ยงเพล เพื่อมีเวลาได้คารวะท่านอาจารย์คุณหญิงวลัย ลีลานุช และ(พี่)ปกรณ์ ปิ่นเฉลียว ซึ่งผมพบครั้งแรกเมื่อช่วงสิ้นปี ๒๕๐๙
เมื่อคุณธัญญา ผลอนันต์ กับผมถูกตำรวจสันติบาลเรียกไปอบรม "ปรับทัศนคติ" ไม่ให้เราจัดทำวารสารชื่อ "เจ็ดสถาบัน" อีกต่อไป เพราะมันเป็น "ศูนย์รวม" นิสิตนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศให้ส่งข้อคิดการเขียนมาร่วมลงพิมพ์ในวารสาร "เจ็ดสถาบัน" นี้ วันนั้นผมชวนธัญญาแวะทักทายคารวะ(พี่)ปกรณ์ ก่อนไปให้สอบปากคำต่อสารวัตรเจ้าของสำนวน พ.ต.ต. นิรันดร์ วรหิรัญ
(* รายละเอียดอยู่ในหนังสือรวมเรื่องสั้นชุด "เรื่องนอกบันทึกรัฐสภา" ซึ่งผมเขียน/พิมพ์เผยแพร่เอง ๒๕๕๕)
เมื่อก่อน พ.ศ. ๒๕๐๒ นั้น ในเมืองไทยมีมหาวิทยาลัยเฉพาะแต่ในกรุงเทพฯ นักเรียนที่จบชั้นมัธยมปลาย ถ้าอยากเข้ามหาวิทยาลัย ก็ต้องมาสอบที่กรุงเทพฯ ปีนั้น เพื่อนร่วมรุ่นของผมจากลำปางจำนวนราว ๔๐ คน ลงมาสอบ แต่ได้เพียง 4 คน คือ ๑๐% โดยเข้าจุฬาลงกรณ์ฯ และเกษตรศาสตร์แห่งละ ๒ คน ปีเดียวกันนี้ จินตนา ปิ่นเฉลียว ชาวลำปาง(แต่เรียน ม. ปลายที่เชียงใหม่) ทำสถิตินับเป็นคนที่ ๔ สุดท้ายของตระกูล "ปิ่นเฉลียว" ที่สอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นหนึ่งของประเทศได้
ผมอายุ ๗๕ ปีแล้ว คิดว่ายังไม่เคยรู้เคยเห็นว่าเคยมีครอบครัวใดบ้างหนอ ที่ลูกๆ สอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นหนึ่งได้ครบ ๔ คน?... โปรดแสดงตัวให้ผมรู้จักและคารวะ ถ้าไม่มีละก็ผมขออนุญาตจุดธูปไหว้บอกคนตระกูล "ปิ่นเฉลียว" ทั้งสี่ว่าในความคิดของผมท่านน่าจะเป็นตระกูล "ปิ่นเฉลียวฉลาด" จริงๆ ครับ
(ศุภกิจ นิมมานนรเทพ ชาวลำปางในกรุงเทพฯ)