Saturday, October 21, 2017

ชื่อเมือง ชื่อย่าน สถานตำบล ...ที่ผิดเพี้ยน ตอนที่ ๓

        เมื่อใครได้อ่านหนังสือเรื่อง "พินิจตำนานลำปาง" หน้า ๑๖๓-๑๗๖  จะพบตำนานชื่อ(อำเภอ) เถินและแม่พริก  ซึ่งทางราชการตั้งแต่สมัยไหนไม่รู้  ได้ขนานขานชื่อเพี้ยนไปจาก  "...คัมภีร์ใบลานวัดแม่วะหลวง  ตำบลแม่วะ  อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง..."

        ผมไม่บังคับหรือสนับสนุให้ท่านต้องเชื่อตามตำนานทุกประการ  ผมเองก็เลือกเอาแก่นสาระมาพิจารณา  ส่วนพลความที่ผู้จารึกใบลานอ้างว่าเรื่องที่เขียนไว้เป็นพระพุทธเจ้า(หรือพระอรหันต์) เสด็จมาและมีพระดำรัสไว้เองนั้น  ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าอาจจะเป็นเพียงการ "แอบอ้างเบื้องสูง"  ให้ผู้ค้นยอมรับก็ได้  สำมะหาอะไรกับยุคโบราณนานร้อยๆ ปี สมัยเมื่อแต่งตำนาน  แม้ในยุคปัจจุบันยุคดิจิตอลก็ยังมีกรณี "หลอกลวง" ปรากฏข่าวเนืองๆ พึงใช้ปัญญาให้มากขึ้น 

         ความในท้ายหน้า ๑๗๐-๑๗๑  สรุปได้ว่าพระพุทธเจ้าทรงทำนายไว้ว่า  หลังจากเสด็จนิพพานแล้ว ๕๐๐ ปี  สถานที่(ป่า)แห่งนี้จักเกิดเป็นบ้านเมือง  แต่...  "คน(ชาวเมือง)ทั้งหลายหากจะทำกิจการใดมักจักโต้เถียงกันไม่รู้จบสักที  ตราบใดที่ยังไม่มีนักปราชญ์ราชบัณฑิตมาตัดสินข้อถกเถียงนั้นๆ  ก็คงไม่ยุติ  พวกเขา(ชาวเมือง) จึงต้องถือเอาถ้อยคำของ "สังฆะนักปราชญ์  อาจารย์มาตักเตือนทุกประการ..."

         จึงประทานเกศาธาตุให้ลูกสิกข์(ศิษย์)นำไปบรรจุในเจดีย์  เพื่อเป็นอนุสรณ์และที่พึ่งทางสติปัญญาว่า  หากเวลาพวกเขามีข้อถกเถียงกันเป็นเรื่องสำคัญ  ก็อย่าทะเลาะเบาะแว้งกัน  ขอให้ระลึกถึงพระเจดีย์ธาตุ  เสมือนมี "พระสงฆ์เตือนสติอยู่เสมอๆ"  เมืองนี้จึงทรงให้ชื่อว่า "สังฆะเติน" (คือ สงฆ์เตือน)  กาลผ่านมาเป็นร้อยๆ ปี  ชื่อเมือง "สังฆะเติน" กร่อนไปๆ เหลือเรียกว่า "เมืองเถิน" หรืออำเภอเถินในปัจจุบัน

          ถามท่านผู้อ่านว่า  ท่านเชื่อตำนานดังกล่าวนี้ไหมครับ?  ชาวอำเภอเถินล่ะ เชื่อรึเปล่าครับ? ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่อัธยาศัย  แต่...ผมเชื่อน่ะครับ  คือผมเชื่อว่า...  พระสงฆ์ผู้ทรงภูมิรู้ถึงขนาดแต่งตำนานขึ้นมาได้  ท่านก็มีกุศโลบายแต่งตำนานให้ชาวเมือง(เถิน)มีความสมานฉันท์ปรองดองกันในการทำงานเพื่อส่วนรวม  แล้วใครเล่าที่จะมีศักยภาพสูงพอที่จะ "ตักเตือน หรือตัดสินชี้ขาดปัญหาข้อถกเถียงของสังคมชาวพุทธ?  อ๋อ...ย่อมต้องเป็นพระเถระแน่"

          คงจะมีผู้สงสัยว่า "ทำไมมีแต่ชาวเมืองเถินเท่านั้นหรือ  ที่ต้องถูก(พระสงฆ์)เตือน?!"

          อ๋อ...ผู้แทนราษฎรตลอดกาล  ชาวเมืองเถิน ที่ชื่อ "บุญเท่ง ทองสวัสดิ์" น่ะ  ท่านเคยรู้จักชื่อไหม??


สส.บุญเท่ง ทองสวัสดิ์
        เมื่อผมเป็นนักเรียนมัธยมปลาย  เวลาท่านผู้แทนบุญเท่งเข้ามาปราศรัยในเมืองลำปางครั้งใด  ผมต้องตามแห่ของเพื่อนๆ ไปฟังวาทะของท่าน  เช่นเดียวกับชาวเมืองที่ยกกันไปฟังปราศรัยมากกว่าผู้สมัครทุกคนและทุกสมัย  บุคลิกและถ้อยคำสำนวนของท่านผู้แทนบุญเท่ง  ผูกใจชาวเมืองเถินและลำปางให้เลือกท่านเป็น "ผู้แทนราษฎร" ทุกสมัยยังไม่พอ  เมื่อท่านถึงแก่อนิจกรรมแล้ว  ลูกสาวของท่าน คือ ดร. ธารทอง ก็ยังอาศัยบารมีความนิยมของบิดาพาให้ได้รับเลือกตั้งด้วย

          แต่...เหตุใดคำว่า "สังฆะเตือน" จึงเลือนกลายเป็น "เตินเป็นเถิน" เช่นในปัจจุบันได้??  ผมลองเดาดูนะครับ  รับรองว่าไม่ใช่ "เดาสุ่ม" หลอก  เพราะคนแก่อายุ ๗๕ ขวบแล้วก็พอมีประสบการณ์ความคิดลองวินิจฉัยบ้าง  เมืองอื่นๆ ในเขตล้านนา(รากภาษาเดียวกัน/ คล้ายกัน) ที่มีชื่อทำนองนี้มีไหม?  มีเมืองโบราณแห่งหนึ่งชื่อ "เทิง" หรือ "เมือง(อำเภอ)เทิง" ขึ้นกับจังหวัดเชียงราย  ด้านตะวันออกก่อนถึงอำเภอเชียงของ  ลักษณะภูมิประเทศของ "เทิง" เป็นภูเขาสูงสมกับชือว่า "เทิง" แปลว่า สูงหรือที่สูง

          คำว่า "เทิง เทิน เติน(ออกเสียงจัตวา)" มีความหมายในภาษาล้านนาว่า "สูง :หิ้ง  :ยกพื้นขึ้นสูงกว่าปกติ"

          ย้อนหลังไปก่อน ๕๕-๖๐ ปี  ถนนพหลโยธินช่วงผ่านพื้นที่อำเภอเถิน(รวมสบปราบ แม่พริก) มักเกิดอุบัติเหตุบ่อย  รถคว่ำที่ย่านนี้ทีไร  จะมีเสียงถามว่า "ที่หลังเทิน(เทิง)ใช่ไหม?"  พอบอกว่าใช่ ก็จะมีเสียงย้อนมาว่า "เอาอีกแล้ว!"  น้ำเสียงคือ เกิดเหตุบ่อยมาก

          ปลายปี ๒๕๐๗ ผมชวนเพื่อนนักศึกษาธรรมศาสตร์ ๔-๕ คน นั่งรถโดยสารจากกรุงเทพฯ ไปลำปาง  เผอิญเพื่อนคนหนึ่งเป็นชาวจังหวัดตรัง  พอเธอเห็นสภาพภูมิประเทศที่มีภูเขาสูงมีถนนไต่วนๆ ขึ้น  ก็ปรารภดังๆ ว่า  "โอ้โฮ...ยังกะเขาพับผ้าเลยนะนี่..."  แต่ด้วยความก้าวหน้าทางวิศวกรรมในปัจจุบัน  สภาพถนนแบบวนๆ บนเขาพับผ้า  บนเขา(หลังเทิง/ หลังเทิน) อื่นๆ ทั่วประเทศไทย  ไม่มีลักษณะวกๆ วนๆ อีกแล้ว  แต่...อุบัติเหตุที่บริเวณ "หลังเทิน(เทิง)"  ก็ยังไม่หมด  คงมีให้เตือนความจำอยู่เนืองๆ

          ในสมัยโบราณนั้น "เมืองเถิน" ปรากฎชื่ออยู่ในยุคกรุงศรีอยุธยาแล้ว  เขตปกครองเดิมกว้างขวางครอบคลุมพื้นที่อำเภอสบปราบ และอำเภอแม่พริกด้วย  ในครั้งโบราณนั้น หากออกชื่อว่า "หลังเทิน(เทิง)"  คนลำปางก็ย่อมรู้ว่าหมายถึง พื้นที่ในเขตเมืองเถิน

           ผมจึงขออนุญาตสรุปความคิดเห็นของตนเองว่า ชื่อ "เมืองเถิน" มีที่มาจากลักษณะภูมิประเทศที่ตั้งเมืองอยู่ในที่ราบของเนินสูง  ซึ่งศัพท์ล้านนาเรียกที่สูง(กว่าปกติ)ว่า  "เทิง เทิน หรือเติน(ออกเสียงจัตวา)"  สามศัพท์ผสมเป็นเสียง "เถิน" ซึ่งไม่มีความหมายในพจนานุกรม  ผมจึงยอมเสี่ยง "หน้าแตก" ให้ผู้อ่านช่วยกันพินิจพิจารณา  เห็นด้วยก็ดี  ไม่เห็นด้วยก็ดี  เพราะการ "ใช้สมอง" ย่อมเป็นเส้นทางของอารยชน

☚..........................................☛

           กล่าวถึงที่มาของ(อำเภอ)แม่พริก  ตามตำนานก็อ้างว่า  พระพุทธเจ้าเสด็จมาที่ฝั่งลำน้ำแห่งหนึ่ง  ซึ่งฝั่งใต้เป็นเขตแดนของ "อโยธิยา" แล้วทรงปรารถแก่พระอานนท์...(สรุปความ)ว่า "...ดูก่อนอานนท์ ตถาคตยังจะไม่ไปอโยธิยา  ทางทิศใต้นั้น  แต่จะ "พิก" (ล้านนาออกเสียงว่า "ปิ้ก" แปลว่ากลับ) ข้ามด่านน้ำตรงนี้กลับ(พิก)ไปทางทิศเหนือ (ทรงเล่าความหวัง) ว่า  เมื่อครั้งพระองค์เสวยชาติเป็นพญางัว  แม่งัวเคยพามาหากินถึง  ฝั่งน้ำจุดนี้แล้ว  แม่งัวก็พาข้ามน้ำกลับไปทางฝั่งน้ำทิศเหนือ...(ดังนั้น) ต่อภายหน้าสถานที่นี้จะเกิดเป็นบ้านเมืองชื่อว่า "แม่พิก" ส่วนหมู่ชาวอโยธิยาก็พากัน "พิก" กลับเมืองตนไป...

            พิจารณาตำนานดังกล่าว  ผมเชื่อตามตำนานส่วนหนึ่ง คือคำว่า "พิก" แต่ไม่เชื่อที่ "แอบอ้างเบื้องสูง" ว่าเป็นพุทธวัจนะ  แต่คำว่า "พิก" จะมีความหมายว่า "กลับ กลับคืน" หรือไม่  ผมไม่ทราบ  ให้เป็นภาระของผู้รู้โดยเฉพาะชาวอำเภอแม่พริกไปสืบค้นต่อไป  ถ้าคนโบราณย่านนั้นออกเสียงเรียกชื่อตำบลว่า "แม่ปิ๊ก" ละก็  ชื่อนี้ก็ต้องเขียนเป็น "แม่พิก" ตรงตามความหมายในตำนานที่แปลว่า "กลับ"  

            ดังนั้น  การที่ทางราชการเรียกชื่อ และเขียนเป็นอำเภอ "แม่พริก" นั้น  ผิดตำนานและความหมาย  แล้วใครจะแก้ไขได้ล่ะครับ?